การที่กรรมการบริษัทคนหนึ่งยื่นใบลาออกต่อกรรมการผู้จัดการระบุให้วันลาออกมีผลในวันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติโดยส่งไปยังที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัท การลาออกจะมีผลเมื่อใด และหากบริษัทยังคงชื่อของกรรมการบริษัทไว้จะฟ้องบังคับบริษัทได้หรือไม่
การที่กรรมการบริษัทคนหนึ่งยื่นใบลาออกต่อกรรมการผู้จัดการระบุให้วันลาออกมีผลในวันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติโดยส่งไปยังที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัท การลาออกจะมีผลเมื่อใด และหากบริษัทยังคงชื่อของกรรมการบริษัทไว้จะฟ้องบังคับบริษัทได้หรือไม่
2516 Views
จากเหตุการณ์ที่มีพิธีกรร่วมรายการหนึ่งตัดสินใจยุติบทบาทของตนเองด้วยการขอลาออกขณะทำรายการ เนื่องจากเกิดความไม่สบายใจเกี่ยวกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมการแสดงออกและการแสดงความคิดเห็นต่างๆ กรณีดังกล่าวอาจเปรียบเทียบได้กับการดำเนินกิจการของบริษัทซึ่งกรรมการคนใดคนหนึ่งอาจแสดงความประสงค์ขอลาออกจากกรรมการบริษัทได้เช่นกัน จึงมีคำถามว่า การที่กรรมการบริษัทคนหนึ่งยื่นใบลาออกต่อกรรมการผู้จัดการระบุให้วันลาออกมีผลในวันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติโดยส่งไปยังที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัท การลาออกจะมีผลเมื่อใด และหากบริษัทยังคงชื่อของกรรมการบริษัทไว้จะฟ้องบังคับบริษัทได้หรือไม่
ป.พ.พ.มาตรา 1153/1 ว.1 มีหลักว่า “กรรมการคนใดจะลาออกจากตำแหน่งให้ยื่นใบลาออกต่อบริษัท การลาออกมีผลนับแต่วันที่ใบลาออกไปถึงบริษัท” และมาตรา 1157 มีหลักว่า “เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการ ให้บริษัทนำความไปจดทะเบียนภายใน 14 วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง” จากคำถามดังกล่าวข้างต้น การที่กรรมการบริษัทคนหนึ่งยื่นใบลาออกเป็นหนังสือต่อกรรมการผู้จัดการโดยส่งไปยังที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัท หากบริษัทได้รับหนังสือวันใดการลาออกย่อมมีผลนับแต่วันนั้น แม้หนังสือลาออกจะระบุให้การลาออกมีผลในวันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติก็เป็นเพียงการแสดงเจตนาฝ่ายเดียวของกรรมการบริษัท แต่หนังสือลาออกจะมีผลเป็นการพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันใดย่อมต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้ หรือตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และเมื่อกรรมการของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทจึงมีหน้าที่ต้องนำความไปจดทะเบียนภายใน 14 วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ตามมาตรา 1153/1 ประกอบมาตรา 1157 หากบริษัทไม่นำความไปจดทะเบียนดังกล่าวโดยยังคงชื่อของกรรมการบริษัทไว้ย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของกรรมการบริษัท กรรมการบริษัทจึงมีอำนาจฟ้องบังคับให้บริษัทดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการให้ถูกต้องได้
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2747/2560 และ 2929/2561)
ป.พ.พ.มาตรา 1153/1 ว.1 มีหลักว่า “กรรมการคนใดจะลาออกจากตำแหน่งให้ยื่นใบลาออกต่อบริษัท การลาออกมีผลนับแต่วันที่ใบลาออกไปถึงบริษัท” และมาตรา 1157 มีหลักว่า “เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการ ให้บริษัทนำความไปจดทะเบียนภายใน 14 วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง” จากคำถามดังกล่าวข้างต้น การที่กรรมการบริษัทคนหนึ่งยื่นใบลาออกเป็นหนังสือต่อกรรมการผู้จัดการโดยส่งไปยังที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัท หากบริษัทได้รับหนังสือวันใดการลาออกย่อมมีผลนับแต่วันนั้น แม้หนังสือลาออกจะระบุให้การลาออกมีผลในวันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติก็เป็นเพียงการแสดงเจตนาฝ่ายเดียวของกรรมการบริษัท แต่หนังสือลาออกจะมีผลเป็นการพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันใดย่อมต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้ หรือตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และเมื่อกรรมการของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทจึงมีหน้าที่ต้องนำความไปจดทะเบียนภายใน 14 วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ตามมาตรา 1153/1 ประกอบมาตรา 1157 หากบริษัทไม่นำความไปจดทะเบียนดังกล่าวโดยยังคงชื่อของกรรมการบริษัทไว้ย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของกรรมการบริษัท กรรมการบริษัทจึงมีอำนาจฟ้องบังคับให้บริษัทดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการให้ถูกต้องได้
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2747/2560 และ 2929/2561)