ลูกสาวเจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้เยาว์รู้เห็นและยินยอมให้บุคคลอื่นบุกรุกบ้านในเวลากลางคืนและมีเพศสัมพันธ์ บิดามารดาซึ่งเป็นเจ้าของบ้านจะดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวในความผิดฐานบุกรุกได้หรือไม่
ลูกสาวเจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้เยาว์รู้เห็นและยินยอมให้บุคคลอื่นบุกรุกบ้านในเวลากลางคืนและมีเพศสัมพันธ์ บิดามารดาซึ่งเป็นเจ้าของบ้านจะดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวในความผิดฐานบุกรุกได้หรือไม่
353 Views
เหตุการณ์เยือนประเทศในเอเชียของประธานสภาผู้แทนราษฎรชาติตะวันตกประเทศหนึ่งซึ่งต่อมากลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ ในประเด็นเรื่องการรุกล้ำอำนาจอธิปไตยและการทำลายสันติภาพระหว่างประเทศ ทำให้แอดมินนึกถึงคำพิพากษาศาลฎีกาเรื่องหนึ่งซึ่งวินิจฉัยในประเด็นความผิดฐานบุกรุกไว้อย่างน่าสนใจโดยมีประเด็นว่า กรณีลูกสาวเจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้เยาว์รู้เห็นและยินยอมให้บุคคลอื่นบุกรุกบ้านในเวลากลางคืนและมีเพศสัมพันธ์ บิดามารดาซึ่งเป็นเจ้าของบ้านจะดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวในความผิดฐานบุกรุกได้หรือไม่
ป.อ.มาตรา 364 มีหลักว่า “ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เข้าไปหรือซ่อนตัวอยู่ในเคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่น หรือไม่ยอมออกไปจากสถานที่เช่นว่านั้นเมื่อผู้มีสิทธิที่จะห้ามมิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และมาตรา 365 (3) มีหลักว่า “ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 364 ได้กระทำในเวลากลางคืน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ตามปัญหาข้างต้น แม้พฤติการณ์ที่บุกรุกเข้าไปในบ้านของบิดามารดาของผู้เยาว์ในเวลากลางคืนจะส่อไปในทางที่บุตรผู้เยาว์รู้เห็นและยินยอม แต่การที่เข้าไปในบ้านเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้เยาว์โดยบิดามารดาซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุไม่ยินยอมถือได้ว่าเป็นการเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตาม ป.อ. มาตรา 365 (3) ประกอบมาตรา 364
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12031/2556)
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ
ป.อ.มาตรา 364 มีหลักว่า “ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เข้าไปหรือซ่อนตัวอยู่ในเคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่น หรือไม่ยอมออกไปจากสถานที่เช่นว่านั้นเมื่อผู้มีสิทธิที่จะห้ามมิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และมาตรา 365 (3) มีหลักว่า “ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 364 ได้กระทำในเวลากลางคืน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ตามปัญหาข้างต้น แม้พฤติการณ์ที่บุกรุกเข้าไปในบ้านของบิดามารดาของผู้เยาว์ในเวลากลางคืนจะส่อไปในทางที่บุตรผู้เยาว์รู้เห็นและยินยอม แต่การที่เข้าไปในบ้านเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับผู้เยาว์โดยบิดามารดาซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุไม่ยินยอมถือได้ว่าเป็นการเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงเป็นความผิดฐานบุกรุกตาม ป.อ. มาตรา 365 (3) ประกอบมาตรา 364
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12031/2556)
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ