บริจาคเงินให้มูลนิธิแล้วจะขอเงินคืนได้หรือไม่

192 Views
▪️จากกรณีที่มูลนิธิบางแห่งนำชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงมาใช้สร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้ประชาชนจำนวนมากร่วมบริจาคเงิน แต่ภายหลังปรากฏข้อเท็จจริงว่า บุคคลดังกล่าวมิได้มีสถานะเป็นผู้บริหาร กรรมการ หรือผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องในการกำกับดูแลหรือบริหารจัดการเงินบริจาคของมูลนิธิตามที่มีการสื่อสารไว้ คำถามที่ตามมาคือ ผู้บริจาคจะมีสิทธิเรียกเงินคืนได้หรือไม่ และมูลนิธิสามารถปฏิเสธความรับผิดโดยอ้างว่า มีการประกาศรายชื่อกรรมการในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ประชาชนจึงควรตรวจสอบด้วยตนเองหรือไม่
.
▪️ตามหลักกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การบริจาคถือเป็นนิติกรรมการให้โดยเสน่หา ซึ่งต้องมีการแสดงเจตนาโดยสมัครใจและถูกต้องตามกฎหมาย หากการให้นั้นเกิดขึ้นจาก “ความสำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคล” เช่น ผู้บริจาคเข้าใจโดยสำคัญผิดว่าบุคคลที่มีชื่อเสียงดังกล่าวเป็นผู้บริหารมูลนิธิหรือเป็นผู้มีอำนาจในการควบคุมดูแลเงินบริจาค ทั้งที่ไม่ใช่ ความยินยอมของผู้บริจาคย่อมไม่บริสุทธิ์ ส่งผลให้นิติกรรมบริจาคตกเป็นโมฆียะตามมาตรา 157 ผู้บริจาคจึงมีสิทธิบอกล้างและเรียกเงินคืนได้ และเมื่อบอกล้างแล้วมูลนิธิต้องคืนเงินในฐานะ “ลาภมิควรได้” ตามหลักในมาตรา 406
.
▪️ในบางกรณี มูลนิธิอาจยกข้อต่อสู้ว่า “เงินบริจาคได้ถูกนำไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์แล้ว จึงไม่สามารถคืนได้” ข้ออ้างดังกล่าว ไม่อาจรับฟังเป็นข้อยกเว้นความรับผิดได้ตามกฎหมาย เนื่องจากเมื่อมีการบอกล้างนิติกรรมบริจาคโดยชอบ สัญญาย่อมเสื่อมผลย้อนหลังไปถึงขณะทำ และคู่กรณีต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมตามหลักการคืนลาภมิควรได้ แม้ทรัพย์สินหรือเงินบริจาคจะถูกนำไปใช้หมดสิ้นแล้วก่อนการบอกล้าง มูลนิธิยังคงมีหน้าที่ต้องคืนทรัพย์สินดังกล่าวตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 412 ถึงมาตรา 414 โดยหากมูลนิธิได้รับทรัพย์สินโดยสุจริตต้องคืนเฉพาะส่วนของทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่ยังคงเหลืออยู่ในขณะบังคับคดี หรือที่ยังตกอยู่ในความครอบครอง แต่หากมูลนิธิรับทรัพย์สินโดยทุจริตหรือรู้ถึงเหตุต้องคืน ต้องรับผิดคืนทรัพย์สินหรือเงินบริจาคเต็มจำนวน แม้ทรัพย์สินนั้นจะสูญหาย ถูกใช้ไป หรือเปลี่ยนสภาพไปแล้วก็ตาม รวมทั้งต้องคืนดอกผลหรือประโยชน์ที่ได้รับไปด้วย ดังนั้น แม้เงินบริจาคจะถูกนำไปใช้ “เพื่อสาธารณประโยชน์” ก็ไม่เป็นเหตุยกเว้นความรับผิด เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นการได้มาโดยสุจริตและเข้าเงื่อนไขตามกฎหมายเท่านั้น
.
▪️ในทางกฎหมายอาญา หากปรากฏพฤติการณ์ว่ามีการโฆษณาหรือเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอก เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อและมอบหรือส่งมอบทรัพย์สินเป็นเงินบริจาค ย่อมอาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดินและมีโทษรุนแรงกว่าความผิดฐานฉ้อโกงทั่วไปตามมาตรา 341 เนื่องจากมีการกระทำต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ หากการกระทำดังกล่าวมีการโฆษณา เผยแพร่ หรือส่งผ่านข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรือสื่อออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไลน์ ยูทูบ หรือแพลตฟอร์มอื่นใดทางอิเล็กทรอนิกส์ ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ในข้อหา นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนเพิ่มเติมอีกโทษหนึ่งได้ด้วย
.
▪️สำหรับประเด็นที่มูลนิธิบางแห่งอ้างว่า รายชื่อประธานหรือกรรมการได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ประชาชนย่อมสามารถตรวจสอบได้ก่อนบริจาคนั้น เห็นได้ว่าเป็นข้ออ้างที่ไม่อาจรับฟังได้ในทางกฎหมาย เนื่องจากโดยสภาพทั่วไป ประชาชนผู้บริจาคย่อมมีฐานะเป็น “ผู้บริโภคข้อมูลข่าวสาร” ที่ได้รับสารจากการโฆษณา เรี่ยไร หรือการสื่อสารสาธารณะของมูลนิธิ โดยมิได้มีหน้าที่ต้องสืบค้นหรือวิเคราะห์ข้อมูลทางกฎหมายเชิงลึกหรือเอกสารราชการก่อนตัดสินใจบริจาค นอกจากนี้ มูลนิธิในฐานะผู้เรี่ยไรหรือผู้รับบริจาคสาธารณะ ย่อมมีหน้าที่โดยตรงในการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้อง ชัดเจน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดตามหลักสุจริตและความโปร่งใสในการระดมทุน หากมีการนำเสนอข้อมูลหรือข้อความที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการมูลนิธิ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ความรับผิดย่อมตกอยู่แก่มูลนิธิในฐานะผู้ให้ข้อมูล และไม่อาจยกข้ออ้างว่ามีประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อปัดความรับผิดหรือโยนภาระให้ประชาชนต้องตรวจสอบเองภายหลังได้
.
▪️นอกจากความรับผิดของมูลนิธิแล้ว ในกรณีที่มีการนำชื่อหรือภาพลักษณ์ของบุคคลที่มีชื่อเสียงมาใช้ในการเรี่ยไรหรือระดมทุนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หากบุคคลดังกล่าว รู้หรือโดยพฤติการณ์ควรรู้ ว่าข้อความที่นำเสนอเกี่ยวกับสถานะของตนต่อสาธารณะไม่ตรงกับความเป็นจริง แต่ยังคงยินยอม สนับสนุน หรือปล่อยปละละเลย ให้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจก่อให้ประชาชนหลงเชื่อและบริจาคเงินโดยเข้าใจผิด บุคคลดังกล่าวอาจต้องร่วมรับผิดทางแพ่งในฐานะผู้ร่วมละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 ประกอบมาตรา 432 ยิ่งไปกว่านั้น หากการยินยอมหรือการกระทำของบุคคลดังกล่าวมีส่วนช่วย ส่งเสริม หรือสนับสนุนให้เกิดการนำเสนอข้อความอันเป็นเท็จต่อสาธารณะจนเป็นเหตุให้เกิดการหลอกลวงประชาชน ก็อาจต้องร่วมรับผิดในทางอาญา ในฐานะผู้สนับสนุนหรือผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 หรือมาตรา 84 แล้วแต่กรณี ประกอบความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343
.
▪️ดังนั้น ในกรณีที่ผู้บริจาคมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าถูกหลอกลวง หรือได้รับข้อมูลอันไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือไม่โปร่งใสจากมูลนิธิ ผู้บริจาคควรดำเนินการรักษาสิทธิของตนโดยเร่งด่วน โดยเริ่มจากการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สลิปหรือหลักฐานการชำระเงิน ข้อความเชิญชวนบริจาค โพสต์หรือคลิปวิดีโอที่ใช้ประกอบการระดมทุน รวมถึงหลักฐานการสื่อสารอื่นใดที่สามารถแสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์การหลอกลวงหรือการปกปิดข้อเท็จจริง จากนั้น ผู้บริจาคควรทำหนังสือบอกล้างนิติกรรมการบริจาค และบอกกล่าวทวงถามขอคืนเงินอย่างเป็นทางการ พร้อมให้มูลนิธิรับผิดคืนเงินบริจาคตามหลักลาภมิควรได้ หากมูลนิธิไม่ชี้แจงหรือไม่ตอบกลับภายในเวลาที่สมควร หรือปฏิเสธคืนเงินโดยปราศจากเหตุผลทางกฎหมาย ผู้บริจาคมีสิทธิ แจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีอาญาในข้อหาฉ้อโกงประชาชนหรือความผิดที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งร้องเรียนต่อกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการดำเนินงานของมูลนิธิ เพื่อให้ตรวจสอบการกระทำและความโปร่งใสในการบริหารจัดการต่อไป
.
▪️แม้การบริจาคจะเป็นการกระทำโดยเสน่หาที่เกิดจากศรัทธาและความสมัครใจของผู้บริจาค แต่กฎหมายได้วางหลักเพื่อคุ้มครองมิให้ประชาชนตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงหรือถูกใช้อุบายในทางมิชอบอย่างชัดเจน ความโปร่งใสในการรับบริจาคและการบริหารจัดการเงินบริจาคจึงมิใช่เพียง ทางเลือก หากแต่เป็นหน้าที่ทางกฎหมายของมูลนิธิและองค์กรการกุศลทุกแห่งที่ต้องปฏิบัติตามหลักความสุจริต ตรวจสอบได้ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่สาธารณชน การอ้าง “ความหวังดีต่อสังคม” หรือ “การทำบุญเพื่อประโยชน์ส่วนรวม” ไม่อาจใช้เป็นข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดทางกฎหมายได้ หากมีพฤติการณ์ที่เข้าลักษณะหลอกลวง ฉ้อฉล หรือแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ การดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาย่อมมีฐานกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน และเป็นกลไกสำคัญในการคุ้มครองสาธารณะและรักษาความศรัทธาต่อระบบการกุศลของประเทศ
.
▪️https://www.youtube.com/watch?v=UbKHprE2FHM
.
▪️ อ่านบทความย้อนหลังเพิ่มเติมได้ที่
• เว็บไซต์: https://lombonlawoffice.com
• เพจ Facebook: เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย