ลืมสร้อยคอทองคำไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วนำผ้าไปซักที่เครื่องซักผ้าอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญใต้คอนโดมิเนียม เมื่อนึกได้จึงรีบลงมาที่เครื่องซักผ้า แต่ปรากฏว่ามีผู้นำผ้าที่ซักเสร็จออกใส่ตระกร้าไว้ให้และเป็นผู้นำสร้อยคอทองคำที่ตกอยู่ในเครื่องซักผ้าดังกล่าวไป ผู้ที่พบและนำสร้อยคอทองคำไปจะมีความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์สินหาย

คอนโดมิเนียมหรือหอพักในปัจจุบันมักจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นตู้กดน้ำ หรือร้านสะดวกซื้อเล็กๆ ไว้คอยบริการให้แก่ผู้ที่อาศัยตามแต่การออกแบบของเจ้าของคอนโดมิเนียมหรือหอพักดังกล่าว อย่างไรก็ดี สิ่งที่มักจะมีเกือบทุกที่ก็คือเครื่องซักผ้าอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญซึ่งเปรียบเสมือนทรัพย์สินสาธารณะที่มีไว้เพื่อให้บริการแก่ทุกคน จึงมีคำถามว่า กรณีลืมสร้อยคอทองคำไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วนำผ้าไปซักที่เครื่องซักผ้าอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญใต้คอนโดมิเนียม เมื่อนึกได้จึงรีบลงมาที่เครื่องซักผ้า แต่ปรากฏว่ามีผู้นำผ้าที่ซักเสร็จออกใส่ตระกร้าไว้ให้และเป็นผู้นำสร้อยคอทองคำที่ตกอยู่ในเครื่องซักผ้าดังกล่าวไป ผู้ที่พบและนำสร้อยคอทองคำไปจะมีความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์สินหาย
 
ทรัพย์สินหายเป็นเรื่องที่ทรัพย์หลุดพ้นไปจากความยึดถือของเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยมิได้ตั้งใจ ไม่ใช่เรื่องสละการครอบครอง ผู้ใดเก็บเอาทรัพย์นั้นไปจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์สินหาย ต้องพิจารณาตามพฤติการณ์เป็นรายๆ ไป คือ ถ้าเก็บเอาไปโดยรู้ หรือควรรู้ว่าทรัพย์นั้นเจ้าของกำลังติดตาม หรือจะติดตามเพื่อเอาคืนก็เป็นลักทรัพย์ ถ้าไม่รู้หรือไม่มีเหตุอันควรรู้ก็เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหาย ตามปัญหา การที่มีผู้นำผ้ามาซักที่เครื่องซักผ้าอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญใต้คอนโดมิเนียม ผู้ที่นำผ้าออกใส่ตระกร้าย่อมต้องทราบดีว่าเจ้าของสร้อยคอทองคำจะต้องพบสร้อยคอดังกล่าวเมื่อนำผ้าที่ซักเสร็จออกจากเครื่องซักผ้า จึงเป็นกรณีที่ควรรู้ว่าทรัพย์นั้นเจ้าของจะติดตามเพื่อเอาคืนทรัพย์ จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
 
 (เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363/2503)
 
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ