การซื้อขายรถยนต์ที่ผู้ขายยังไม่ได้ส่งมอบคู่มือจดทะเบียนรถ และโอนชื่อให้แก่ผู้ซื้อ หากต่อมาหากผู้ซื้อไม่ยอมชำระราคาส่วนที่เหลือ ผู้ขายมีสิทธิที่จะเอารถยนต์นั้นกลับมาโดยพลการได้หรือไม่
การซื้อขายรถยนต์ที่ผู้ขายยังไม่ได้ส่งมอบคู่มือจดทะเบียนรถ และโอนชื่อให้แก่ผู้ซื้อ หากต่อมาหากผู้ซื้อไม่ยอมชำระราคาส่วนที่เหลือ ผู้ขายมีสิทธิที่จะเอารถยนต์นั้นกลับมาโดยพลการได้หรือไม่
1938 Views
รถยนต์นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน พวกเราหลายคนจึงพยายามเก็บหอมรอมริบเพื่อให้ได้เงินสักก้อนหนึ่งมาดาว์นหรือมาซื้อรถยนต์ไว้เป็นของตนเอง กรณีรถใหม่ป้ายแดง หรือรถยนต์มือสองที่มีการทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทไฟแนนซ์ หรือผู้ให้เช่าซื้อคงไม่เป็นปัญหา เพราะกรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของผู้ให้เช่าซื้ออยู่ และยังไม่โอนไป จนกว่าผู้เช่าซื้อจะได้มีการผ่อนชำระจนหมดและได้มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กันแล้ว โดยในระหว่างสัญญา หากผู้เช่าซื้อไม่ผ่อนชำระ ผู้ให้เช่าซื้อก็มีสิทธิที่จะติดตามเอารถยนต์นั้นกลับคืนได้ แต่กรณีที่มีการทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ และมีการชำระเงินไว้แล้วบางส่วน สิทธิของผู้ขายนั้นจะเป็นอย่างไร จึงมีคำถามว่า การซื้อขายรถยนต์ที่ผู้ขายยังไม่ได้ส่งมอบคู่มือจดทะเบียนรถ และโอนชื่อให้แก่ผู้ซื้อ หากต่อมา ผู้ซื้อไม่ยอมชำระราคาส่วนที่เหลือ ผู้ขายมีสิทธิที่จะเอารถยนต์นั้นกลับมาโดยพลการได้หรือไม่ แอดมินมีคำตอบครับ
เนื่องจากสัญญาซื้อขายรถยนต์ดังกล่าวเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด และไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ย่อมโอนให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่ขณะเมื่อได้ทำสัญญาซื้อขายกันตาม ป.พ.พ. มาตรา 453 และ 458 ส่วนใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์นั้น มิใช่เอกสารสำคัญที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ เพียงแต่เป็นหลักฐานอันหนึ่งที่แสดงถึงการเสียภาษีประจำปีและแสดงว่าผู้มีชื่อในใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์น่าจะเป็นเจ้าของเท่านั้น ผู้ขายจึงไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์คันดังกล่าว และแม้จะได้ความว่าผู้ซื้อยังค้างชำระค่ารถยนต์อยู่ก็ตาม หากผู้ซื้อเพิกเฉยไม่ยอมชำระหนี้ดังกล่าว ถือว่าผู้ซื้อผิดสัญญา ผู้ขายก็ชอบที่จะใช้สิทธิเรียกร้องฟ้องคดีทางแพ่ง เพื่อขอให้ผู้ซื้อชำระหนี้ให้ครบถ้วนได้ แต่ผู้ขายไม่มีสิทธิที่จะติดตามเอารถยนต์คันที่ขายไปนั้นคืนมาโดยพลการได้ เพราะเป็นการใช้อำนาจบังคับให้ชำระหนี้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของผู้ขายจึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้ซื้อไปโดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9603/2553 (ประชุมใหญ่ครั้งที่9/2553)
เนื่องจากสัญญาซื้อขายรถยนต์ดังกล่าวเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด และไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ย่อมโอนให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่ขณะเมื่อได้ทำสัญญาซื้อขายกันตาม ป.พ.พ. มาตรา 453 และ 458 ส่วนใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์นั้น มิใช่เอกสารสำคัญที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ เพียงแต่เป็นหลักฐานอันหนึ่งที่แสดงถึงการเสียภาษีประจำปีและแสดงว่าผู้มีชื่อในใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์น่าจะเป็นเจ้าของเท่านั้น ผู้ขายจึงไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์คันดังกล่าว และแม้จะได้ความว่าผู้ซื้อยังค้างชำระค่ารถยนต์อยู่ก็ตาม หากผู้ซื้อเพิกเฉยไม่ยอมชำระหนี้ดังกล่าว ถือว่าผู้ซื้อผิดสัญญา ผู้ขายก็ชอบที่จะใช้สิทธิเรียกร้องฟ้องคดีทางแพ่ง เพื่อขอให้ผู้ซื้อชำระหนี้ให้ครบถ้วนได้ แต่ผู้ขายไม่มีสิทธิที่จะติดตามเอารถยนต์คันที่ขายไปนั้นคืนมาโดยพลการได้ เพราะเป็นการใช้อำนาจบังคับให้ชำระหนี้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของผู้ขายจึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้ซื้อไปโดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9603/2553 (ประชุมใหญ่ครั้งที่9/2553)