การที่บุคคลภายนอกซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้เข้าชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เป็นการรับสภาพหนี้หรือเป็นการแปลงหนี้ใหม่หรือไม่ หนี้ตามสัญญาดังกล่าวมีอายุความเท่าใด และการใช้เอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานจะต้องปิดอากรแสตมป์หรือไม่

3512 Views
ในเรื่องสิทธิและหน้าที่ของเจ้าหนี้และลูกหนี้ที่มีต่อกันอันเนื่องมาจากมูลหนี้นั้น หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของลูกหนี้ คือการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด และชำระหนี้ให้ถูกต้องแท้จริงตามความประสงค์แห่งมูลหนี้ โดยการชำระหนี้นั้นลูกหนี้หรือบุคคลภายนอกจะเป็นผู้ชำระหนี้ก็ได้ เว้นแต่สภาพแห่งหนี้จะไม่เปิดช่องให้บุคคลภายนอกชำระ หรือการชำระหนี้ดังกล่าวเป็นการขัดกับเจตนาอันคู่กรณีได้แสดงไว้ แต่แม้ลูกหนี้จะไม่ยินยอม ถ้าบุคคลภายนอกมีส่วนได้เสีย บุคคลภายนอกนั้นย่อมมีสิทธิชำระหนี้ได้ จึงมีคำถามว่า การที่บุคคลภายนอกซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้เข้าชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เป็นการรับสภาพหนี้หรือเป็นการแปลงหนี้ใหม่หรือไม่ หนี้ตามสัญญาดังกล่าวมีอายุความเท่าใด และการใช้เอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานจะต้องปิดอากรแสตมป์หรือไม่
 
การรับสภาพหนี้เป็นการที่ลูกหนี้รับสภาพต่อเจ้าหนี้ว่าจะชำระหนี้ให้ ดังนั้น การที่บุคคลภายนอกซึ่งมิได้เป็นลูกหนี้ผูกพันตนเข้าชำระหนี้ของลูกหนี้แก่เจ้าหนี้จึงไม่เป็นการรับสภาพหนี้ ทั้งในเอกสารดังกล่าวก็ไม่ปรากฏว่าเจ้าหนี้ตกลงให้หนี้ของลูกหนี้ระงับไป จึงไม่เป็นการแปลงหนี้ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้ แต่สัญญาดังกล่าวถือเป็นสัญญาประเภทหนึ่งที่คู่สัญญากระทำด้วยความสมัครใจ เมื่อไม่ขัดต่อกฎหมายย่อมสมบูรณ์และใช้บังคับได้ ซึ่งหนี้ตามสัญญานี้ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปีตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 และเมื่อมิใช่สัญญารับสภาพหนี้และสัญญาที่กำหนดไว้ในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ท้ายหมวด 6 แห่ง ป.รัษฎากรฯ ซึ่งเป็นตราสารที่ต้องปิดอากรแสตมป์ตามความมุ่งหมายแห่ง ป.รัษฎากรฯ มาตรา 103 ,104 และ 108 ดังนั้น แม้เอกสารดังกล่าวจะไม่ปิดอากรแสตมป์ก็ใช้เป็นพยานหลักฐานได้
 
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5303/2545)
 
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ