การที่ผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราและเลี้ยวรถอย่างกะทันหัน จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหน้ากระเด็นออกจากตัวรถได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ภายหลังเกิดเหตุ ผู้ขับขี่ไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารและได้หลบหนีไป ต่อมาผู้โดยสารถึงแก่ความตาย การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำโดยเจตนาหรือประมาท และผู้ขับขี่จะมีความผิดฐานใดบ้าง
การที่ผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราและเลี้ยวรถอย่างกะทันหัน จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหน้ากระเด็นออกจากตัวรถได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ภายหลังเกิดเหตุ ผู้ขับขี่ไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารและได้หลบหนีไป ต่อมาผู้โดยสารถึงแก่ความตาย การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำโดยเจตนาหรือประมาท และผู้ขับขี่จะมีความผิดฐานใดบ้าง
360 Views
การที่ผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราและเลี้ยวรถอย่างกะทันหัน จนทำให้ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านหน้ากระเด็นออกจากตัวรถเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัสและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมานั้น ถือได้ว่าผู้ขับขี่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(2)(4) ประกอบด้วยมาตรา 157 และ 160 ตรี ว.4 และเป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตาม ป.อ. มาตรา 291 การกระทำของผู้ขับขี่จึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท และเมื่อเกิดเหตุแล้ว การที่ผู้ขับขี่ไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารและได้หลบหนีไป รวมทั้งไม่แสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงโดยทันที เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายหลังซึ่งเป็นการกระทำโดยเจตนาของผู้ขับขี่แยกต่างหากจากการกระทำครั้งแรกอันเป็นเรื่องต่างกรรม ผู้ขับขี่จึงต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78, 160 ว.2 อีกกระทงหนึ่ง
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3557/2531 และ 3055/2551)
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3557/2531 และ 3055/2551)
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ