จำเลยกับผู้ตายเป็นตำรวจและเป็นเพื่อนกัน จำเลยไปยืมเงินจากบุคคลอื่นมาให้ผู้ตาย แต่ผู้ตายกลับไม่คืนเงิน และเมื่อทวงถาม ผู้ตายกลับบอกจำเลยว่า “KUAY มาทวงอะไรมากมาย กูไม่ให้ ให้โคตรพ่อโคตรแม่มึงมาทวงซิ” จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตายจำนวน 1 นัด เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายโดยทันที จำเลยจะอ้างว่าเป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะได้หรือไม่
จำเลยกับผู้ตายเป็นตำรวจและเป็นเพื่อนกัน จำเลยไปยืมเงินจากบุคคลอื่นมาให้ผู้ตาย แต่ผู้ตายกลับไม่คืนเงิน และเมื่อทวงถาม ผู้ตายกลับบอกจำเลยว่า “KUAY มาทวงอะไรมากมาย กูไม่ให้ ให้โคตรพ่อโคตรแม่มึงมาทวงซิ” จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตายจำนวน 1 นัด เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายโดยทันที จำเลยจะอ้างว่าเป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะได้หรือไม่
469 Views
การเลิกคบเพื่อนที่เคยสนิทมีหลายสาเหตุ นอกจากความไม่จริงใจ ความเห็นแก่ตัว หรือระยะทางแล้ว สาเหตุหลักของความสัมพันธ์ที่แตกร้าวมักจะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ หลายคนต้องเลิกคบกันเพราะให้ยืมเงินแล้วไม่คืน ยิ่งในกรณีที่ต้องไปยืมเงินจากบุคคลอื่นมาให้เพื่อน จากที่เคยเป็นปัญหาของเขา ก็กลับกลายเป็นปัญหาของเราที่ต้องตามใช้หนี้แทนเพื่อน สุดท้ายจึงกลายเป็น “เสียทั้งเพื่อน เสียทั้งเงิน” จึงมีคำถามว่า จำเลยกับผู้ตายเป็นตำรวจและเป็นเพื่อนกัน จำเลยไปยืมเงินจากบุคคลอื่นมาให้ผู้ตาย แต่ผู้ตายกลับไม่คืนเงิน และเมื่อทวงถาม ผู้ตายกลับบอกจำเลยว่า “KUAY มาทวงอะไรมากมาย กูไม่ให้ ให้โคตรพ่อโคตรแม่มึงมาทวงซิ” จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตายจำนวน 1 นัด เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายโดยทันที จำเลยจะอ้างว่าเป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะได้หรือไม่
ป.อ.มาตรา 72 มีหลักว่า “ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้” การที่จำเลยไปยืมเงินจากบุคคลอื่นมาให้ผู้ตายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนเกิดเหตุ และจำเลยชอบที่จะต้องดำเนินการเรียกร้องบังคับให้ผู้ตายชำระหนี้ให้จำเลยตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนที่จำเลยไปทวงถามเอาจากผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ยอมคืนให้ ทั้งผู้ตายยังพูดกับจำเลยว่า “KUAY มาทวงอะไรมากมาย กูไม่ให้ ให้โคตรพ่อโคตรแม่มึงมาทวงซิ” แม้ถ้อยคำที่ผู้ตายพูดกับจำเลยจะเป็นคำก้าวร้าวหยาบคาย เป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่จะกล่าวออกมาและเป็นที่ระคายเคืองแก่จำเลยอยู่บ้าง ก็ไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจึงมิใช่เป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะตาม ป.อ.มาตรา 72
# การให้ยืมเงิน คือการจ่ายเงินเพื่อซื้อศัตรู
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4270/2552)
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ
ป.อ.มาตรา 72 มีหลักว่า “ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้” การที่จำเลยไปยืมเงินจากบุคคลอื่นมาให้ผู้ตายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนเกิดเหตุ และจำเลยชอบที่จะต้องดำเนินการเรียกร้องบังคับให้ผู้ตายชำระหนี้ให้จำเลยตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนที่จำเลยไปทวงถามเอาจากผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ยอมคืนให้ ทั้งผู้ตายยังพูดกับจำเลยว่า “KUAY มาทวงอะไรมากมาย กูไม่ให้ ให้โคตรพ่อโคตรแม่มึงมาทวงซิ” แม้ถ้อยคำที่ผู้ตายพูดกับจำเลยจะเป็นคำก้าวร้าวหยาบคาย เป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่จะกล่าวออกมาและเป็นที่ระคายเคืองแก่จำเลยอยู่บ้าง ก็ไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจึงมิใช่เป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะตาม ป.อ.มาตรา 72
# การให้ยืมเงิน คือการจ่ายเงินเพื่อซื้อศัตรู
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4270/2552)
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ