ตำรวจทางหลวงมีอำนาจสั่งให้ผู้ขับขี่ตรวจปัสสาวะเพื่อหาของมึนเมาหรือสารเสพติดได้หรือไม่

พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 142(2) มีหลักว่า “เจ้าพนักงานจราจรมีอำนาจสั่งให้ผู้ขับขี่หยุดรถและสั่งให้มีการทดสอบ ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันควรเชื่อว่าผู้ขับขี่ดังกล่าวหย่อนความสามารถในอันที่จะขับรถ หรือเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบ ให้เจ้าพนักงานจราจรมีอำนาจกักตัวผู้นั้นไว้ดำเนินการทดสอบได้ภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นแห่งกรณีเพื่อให้การทดสอบเสร็จสิ้นไปโดยเร็ว หากผู้นั้นยังไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นฝ่าฝืนกฎหมายโดยขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น” จากคำถามข้างต้น กองบังคับการตำรวจทางหลวงเป็นหน่วยงานในสังกัดของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจทางหลวงจึงมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนตาม ป.วิ.อ.และตามกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับความผิดทางอาญาและจราจร ในฐานะเจ้าพนักงานตำรวจ และเจ้าพนักงานจราจรตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ดังนั้น ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันควรเชื่อว่าผู้ขับขี่หย่อนความสามารถในอันที่จะขับรถ หรือขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น จึงมีอำนาจสั่งให้ผู้ขับขี่ตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดหรือของมึนเมาได้ตามกฎหมาย
 
# มาตรา 160 ตรี มีหลักว่า "ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 43(2) (ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่"
 
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ