ความผิดฐานทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม

259 Views
ปัญหาตุ๊กตา
นางสาวเอนนักศึกษาอายุ 22 ปี คบหากับนายอาร์ตนักแสดงชื่อดังอายุ 30 ปี และมีเพศสัมพันธ์โดยมิได้ป้องกันจนเกิดการตั้งครรภ์ อายุครรภ์ประมาณ 10 สัปดาห์ เมื่อนายอาร์ตทราบเรื่องจึงขอเลิกเพราะไม่พร้อมจะรับผิดชอบ และเกรงว่าหากนักข่าวทราบจะทำให้ความนิยมของตนเองในฐานะนักแสดงลดลง นางสาวเอนเกรงว่านายอาร์ตจะไม่รักและเลิกราจึงถามนายอาร์ตว่า หากทำแท้งแล้ว นายอาร์ตจะยังคงคบหากับตนเหมือนเดิมหรือไม่ นายอาร์ตซึ่งกำลังเครียดเรื่องการตั้งครรภ์ของนางสาวเอนจึงตอบไปว่า รักเหมือนเดิม วันต่อมา นางสาวเอนแจ้งว่ามีคลินิกเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งมีพยาบาลให้บริการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ นายอาร์ตจึงมารับและช่วยขับรถพานางสาวเอนไปยังคลินิกดังกล่าว และนั่งรออยู่ในรถยนต์จนนางสาวเอนได้ทำแท้งตามความประสงค์ แต่หลังจากทำแท้งแล้ว นายอาร์ตกลับติดต่อยากและขอเลิกกับนางสาวเอนโดยให้เหตุผลว่า นางสาวเอนไม่ใช่ความสุขของตนเองอีกต่อไป นางสาวเอนจึงนำเรื่องดังกล่าวไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานโดยแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับบุคคลใด เพียงแต่ต้องการให้นายอาร์ตอย่าไปทำแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นอีก พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนางสาวเอนจนเสร็จสิ้นและส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการเพื่อพิจารณา จึงมีคำถามว่า กรณีดังกล่าว นางสาวเอน นายอาร์ต และพยาบาล จะต้องรับผิดประการใด และพนักงานอัยการจะมีอำนาจฟ้องคดีนี้หรือไม่
 
ป.อ.มาตรา 301 มีหลักว่า “หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูกขณะมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ส่วนมาตรา 302 ว.1 มีหลักว่า “ผู้ใดทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และมาตรา 305 มีหลักว่า “ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 301 หรือมาตรา 302 เป็นการกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดังต่อไปนี้ ผู้กระทำไม่มีความผิด ....... (4) หญิงซึ่งมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์” ตามปัญหา เมื่อนางสาวเอนมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ แม้จะยอมให้ผู้อื่นทำแท้งให้ นางสาวเอนก็ไม่มีความผิดตามมาตรา 301 ส่วนนายอาร์ตนั้น แม้จะมีการตอบคำถามของนางสาวเอนซึ่งถามว่า หากทำแท้งแล้ว นายอาร์ตจะยังคงคบหากับตนเหมือนเดิมหรือไม่ โดยตอบว่า รักเหมือนเดิม รวมทั้งมารับและช่วยขับรถพานางสาวเอนไปยังคลินิกเอกชนเพื่อทำแท้ง ซึ่งเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกก่อนหรือขณะที่นางสาวเอนจะทำแท้ง และนั่งรออยู่ในรถยนต์จนนางสาวเอนได้ทำแท้งตามความประสงค์อันมีลักษณะเป็นผู้สนับสนุนการทำแท้งของนางสาวเอนตามมาตรา 301 ประกอบมาตรา 86 ก็ตาม แต่เมื่อนางสาวเอนซึ่งเป็นตัวการไม่มีความผิด นายอาร์ตซึ่งเป็นผู้สนับสนุนจึงไม่มีความผิดเช่นกัน อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีของพยาบาลซึ่งเป็นผู้ที่ทำแท้งให้กับนางสาวเอนนั้น แม้นางสาวเอนจะมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ และยินยอมให้ทำแท้งก็ตาม กรณีดังกล่าวก็ไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 305 แต่อย่างใด เพราะพยาบาลไม่ใช่แพทย์ ดังนั้น ไม่ว่านางสาวเอนจะมีอายุครรภ์เท่าใดก็ตาม พยาบาลจึงยังคงมีความผิดตามมาตรา 302 และเมื่อข้อหาความผิดตาม ป.อ.มาตรา 302 มิใช่เป็นคดีความผิดอาญาต่อส่วนตัว พนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจทำการสอบสวนได้โดยไม่จำต้องมีการร้องทุกข์ตามระเบียบ ดังนั้น เมื่อปรากฏว่าพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนแล้ว พนักงานอัยการย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ได้ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 120
 
(ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6443/2545, 6318/2541)
 
# “ทำแท้ง” เป็นคำกริยา หมายถึง รีดลูก, มีเจตนาทำให้ทารกออกจากครรภ์มารดาก่อนกำหนดและตาย (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554)
 
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ

บทความอื่นๆ