การจับมือเซ็นชื่อโดยเจ้าของยินยอม เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารหรือไม่

ความก้าวหน้าทางการแพทย์มีผลต่อสุขภาพ ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ประเทศไทยจึงมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการคาดการณ์ว่าในอีกไม่กี่ปี สังคมไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ปัญหาทางด้านสุขภาพของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องภาวะการมองเห็นที่เสื่อมลง หรือมีกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการศึกษา ดังนั้น ในการติดต่อหรือทำธุรกรรมต่างๆ จึงมักจะต้องมีผู้ช่วยเหลือดูแลไปช่วยอำนวยความสะดวกด้วยเสมอ  กรณีที่แอดมินนำมาพูดคุยวันนี้ก็เช่นเดียวกัน หากในการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น การขอเปิดบัญชีกับธนาคาร หากผู้สูงอายุสั่งให้ผู้ช่วยเหลือดูแลช่วยจับมือแล้วเซ็นชื่อเป็นชื่อของผู้สูงอายุเองแล้ว ผู้ช่วยเหลือดูแลจะมีความผิดฐานปลอมเอกสารหรือไม่
 
ในทางกฎหมายนั้น การวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงย่อมมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการพิจารณาความผิดของผู้กระทำ กรณีดังกล่าวนี้มีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า นอกจากเอกสารการเปิดบัญชีกับธนาคารแล้ว ผู้สูงอายุก็ได้สั่งให้ผู้ช่วยเหลือดูแลดังกล่าวจับมือแล้วเซ็นชื่อเป็นชื่อของผู้สูงอายุในเอกสารอื่นๆ มาโดยตลอด ขณะสั่งการ ผู้สูงอายุยังมีสติสัมปชัญญะสามารถรับรู้ในการกระทำของตนเองได้ และทราบรายละเอียดเงื่อนไขการเปิดบัญชีกับธนาคารทุกประการ แต่เนื่องจากอายุมากจึงไม่สามารถเซ็นชื่อได้จึงต้องขอให้ผู้ช่วยเหลือดูแลจับมือในการเปิดบัญชีโดยความยินยอมและโดยสมัครใจ ทั้งการเปิดบัญชีดังกล่าวก็ไม่ทำเกิดความเสียหายแก่ผู้สูงอายุและบุคคลอื่น แต่กลับทำให้ทรัพย์สินงอกเงย การกระทำดังกล่าวจึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสาร และเมื่อไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร จึงไม่อาจเป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอมได้
 
# เครดิตความเห็นทางกฏหมาย (ท่านอัยการจิระประวัติ เเบบประเสริฐ)