การที่ภริยาทราบว่าสามีมีชู้มาโดยตลอด เป็นระยะเวลาเกิน 1 ปีแล้ว ทำให้สิทธิฟ้องหย่าระงับไปหรือไม่

ปัญหาครอบครัวในสังคมไทยนั้น “การนอกใจคู่สมรส” เป็นปัญหาที่พบได้มากที่สุด และในระหว่างสามีกับภริยา สามีมักจะมีพฤติกรรมที่นอกใจมากกว่าภริยา โดยมีอัตราสูงถึง 56% ของผู้ที่ทำแบบสำรวจ แต่กลับมีอัตราการหย่าร้างที่น้อยมาก สาเหตุส่วนหนึ่งอาจมาจากค่านิยมในอดีต และระบบอุปถัมภ์สตรี (ผู้หญิงไม่สามารถดูแลตัวเองได้) อย่างไรก็ดี แนวคิดดังกล่าวได้เปลี่ยนไปตามความเจริญของบ้านเมือง และค่านิยมเรื่อง “ผัวเดียวเมียเดียว” เป็นเรื่องหนึ่งที่แสดงถึงความเท่าเทียมกันของผู้ชายและผู้หญิง จนนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายครอบครัว โดยให้คู่สมรสมีสิทธิฟ้องหย่าคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งที่มีชู้ได้ โดยมีเงื่อนไขว่า “จะต้องใช้สิทธิฟ้องหย่าภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่รู้ หรือควรรู้ถึงความจริงดังกล่าว” จึงมีคำถามว่า การที่ภริยาทราบว่าสามีมีชู้มาโดยตลอด เป็นระยะเวลาเกิน 1 ปีแล้ว ทำให้สิทธิฟ้องหย่าระงับไปหรือไม่ แอดมินมีคำตอบครับ
 
เหตุฟ้องหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (1) มีหลักว่า “หากสามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดู หรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้” และในเรื่องการใช้สิทธิฟ้องหย่านั้น มาตรา 1529 มีหลักว่า “สิทธิฟ้องร้องโดยอาศัยเหตุในมาตรา 1516 (1) ย่อมระงับไปเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันผู้กล่าวอ้างรู้ หรือควรรู้ความจริง ซึ่งตนอาจยกขึ้นกล่าวอ้างได้” มาตราดังกล่าวหมายถึง กรณีที่เหตุที่กล่าวอ้างนั้น มิได้เกิดเหตุนั้นอีก สิทธิฟ้องร้องจึงระงับเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันผู้กล่าวอ้างรู้ หรือควรรู้ความจริง ซึ่งตนอาจยกขึ้นกล่าวอ้าง ดังนั้น หากขณะที่ภริยาใช้สิทธิฟ้องหย่า สามียังคงมีชู้อยู่ เหตุฟ้องหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (1) จึงยังคงมีอยู่ตลอดมา และย่อมยกเป็นเหตุหย่าได้ โดยไม่สำคัญว่าภริยาจะรู้ข้อเท็จจริงดังกล่าวก่อนฟ้องเกิน 1 ปีหรือไม่ สิทธิฟ้องร้องของภริยาจึงยังไม่ระงับไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 1529 (เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4678/2552 และ 6804/2558)