การเข้าไปในห้องพักของผู้เสียหายในยามวิกาล เมื่อถูกพบเห็นจึงเปิดเสื้อพร้อมทำท่าคล้ายกับจะชักอาวุธ จากนั้นจึงหยิบเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไป จะเป็นความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์หรือความผิดฐานชิงทรัพย์

343 Views
ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ตามป.อ.มาตรา 336 ว.1 มีหลักว่า “ผู้ใดลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า ผู้นั้นกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท” ส่วนความผิดฐานชิงทรัพย์ตามป.อ.มาตรา 339 ว.1 มีหลักว่า “ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ (1) ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป (2) ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น (3) ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ (4) ปกปิดการกระทำความผิดนั้น หรือ (5) ให้พ้นจากการจับกุม ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-200,000 บาท” จากคำถามดังกล่าวข้างต้น แม้ผู้กระทำความผิดจะไม่ได้พูดจาข่มขู่ว่าทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย แต่พฤติการณ์ที่เดินเข้าไปในห้องพักอันเป็นเคหสถานของผู้เสียหายในยามวิกาล แล้วเปิดเสื้อให้ดูพร้อมทำท่าคล้ายกับจะชักอาวุธจนทำให้ผู้เสียหายรู้สึกตกใจกลัว เกรงว่าจะถูกทำร้ายและไม่กล้าขัดขืน จากนั้นผู้กระทำได้เอาทรัพย์ของผู้เสียหายไป จึงเป็นการแสดงอาการขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายในขณะเดียวกันกับการลักทรัพย์หรือใกล้ชิดกับการลักทรัพย์ต่อเนื่องเป็นเหตุการณ์เดียวกัน จึงไม่ใช่ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ แต่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
 
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7583/2560)

บทความอื่นๆ