เจ้าหนี้ให้ลูกหนี้ยืมเงิน แต่พอไปทวงกลับถูกปฏิเสธและถูกด่าด้วยถ้อยคำก้าวร้าวหยาบคาย จึงทำร้ายร่างกายลูกหนี้ เจ้าหนี้จะอ้างว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะได้หรือไม่

คำว่า “เจ้าหนี้” ในทางกฎหมาย หมายถึงบุคคลผู้มีสิทธิที่จะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ แต่ในความเป็นจริง บางครั้งเจ้าหนี้ก็กลับเป็นบุคคลที่น่าสงสารที่สุด เพราะต้องกลายเป็นคนใจดีที่เสียรู้ เสียเงิน และต้องลำบากใจในการติดตามให้ลูกหนี้คืนเงินที่ยืมไป จึงมีคำถามว่า เจ้าหนี้ให้ลูกหนี้ยืมเงิน แต่พอไปทวงกลับถูกปฏิเสธและถูกด่าด้วยถ้อยคำก้าวร้าวหยาบคาย จึงทำร้ายร่างกายลูกหนี้ เจ้าหนี้จะอ้างว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะได้หรือไม่
 
การให้ยืมเงินเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนเกิดเหตุ เมื่อลูกหนี้ไม่คืนเงิน ก็ชอบที่เจ้าหนี้จะต้องดำเนินการเรียกร้องบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนที่เจ้าหนี้ไปทวงถามเอาจากลูกหนี้ แต่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนให้ ทั้งลูกหนี้ยังได้พูดกับเจ้าหนี้ด้วยถ้อยคำที่ก้าวร้าวหยาบคาย แม้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่จะกล่าวออกมา และเป็นที่ระคายเคืองแก่เจ้าหนี้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการข่มเหงเจ้าหนี้อย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่เจ้าหนี้ทำร้ายร่างกายลูกหนี้จึงมิใช่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตาม ป.อ. มาตรา 72 # และเป็นการใช้ความรุนแรง หรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ มีความผิดตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 อีกส่วนหนึ่งด้วย
 
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4270/2552 และ 1021/2562)
 
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ