อ้างเหตุบันดาลโทสะได้หรือไม่
อ้างเหตุบันดาลโทสะได้หรือไม่
311 Views
นายหนึ่งชวน นายสอง และนายห้า มาตั้งวงดื่มสุราและแกะขนุนทานที่หน้าบ้านของนายสามซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของนายหนึ่ง นายสองพอเมาได้ที่จึงแอบเดินเข้าไปในบ้านและพยายามจะเข้าไปในห้องนอนของนางสาวสี่ลูกของนายสามซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของนายหนึ่ง นายหนึ่งเห็นดั่งนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านและต่อว่านายสองอย่างรุนแรง นายสองจึงด่านายหนึ่งว่า “แม่มึงเสือกอะไรด้วยวะ” นายหนึ่งโมโหที่ถูกด่าแม่จึงใช้มีดปอกขนุนปลายแหลมยาว 4 นิ้วซึ่งอยู่ในมือแทงไปที่ท้องของนายสองหนึ่งครั้งจนลำไส้ของนายสองทะลักออกมา แต่นายห้ารีบนำนายสองส่งโรงพยาบาลและแพทย์ทำการผ่าตัดรักษาชีวิตของนายสองไว้ได้ทันท่วงที มีคำถามว่า นายหนึ่งจะต้องรับผิดจากการกระทำดังกล่าวหรือไม่ หรือจะอ้างเหตุบันดาลโทสะได้หรือไม่
อาวุธมีดที่นายหนึ่งใช้แทงนายสองเป็นมีดปอกขนุนปลายแหลมยาว 4 นิ้ว และนายหนึ่งเลือกแทงนายสองที่ท้องซึ่งมีอวัยวะสำคัญอยู่ภายในจนลำไส้ทะลักออกมา แสดงว่าแทงอย่างแรง นายหนึ่งย่อมเล็งเห็นผลได้ว่ามีดอาจจะทะลุไปถึงอวัยวะสำคัญจนเป็นเหตุให้นายสองถึงแก่ความตายได้ แม้มีดจะไม่ถูกอวัยวะสำคัญภายในก็ต้องถือว่านายหนึ่งมีเจตนาฆ่า เมื่อนายหนึ่งลงมือกระทำความผิดไปตลอดแล้ว แต่การกระทำของนายหนึ่งไม่บรรลุผลเพราะแพทย์ทำการผ่าตัดและรักษาชีวิตของนายสองไว้ได้ทันท่วงที นายสองจึงไม่ถึงแก่ความตาย การกระทำของนายหนึ่งจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ก่อนเกิดเหตุนายสองบุกรุกเข้าไปในบ้านของนายสามและพยายามจะเข้าไปในห้องนอนของนางสาวสี่ เป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมต่อนางสาวสี่มิใช่เป็นการข่มเหงต่อนายหนึ่ง แม้การกระทำของนายสองจะสร้างความไม่พอใจแก่นายหนึ่งซึ่งเป็นญาติ แต่นางสาวสี่ก็เป็นเพียงลูกพี่ลูกน้องของนายหนึ่งที่ไม่ใช่บุคคลใกล้ชิดอันจะก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่แก่นายหนึ่งที่จะต้องคอยปกป้องดูแลมิให้ผู้อื่นมาทำร้าย ดังนี้ จึงไม่อาจถือว่านายหนึ่งถูกนายสองข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ส่วนข้อความที่นายหนึ่งถูกนายสองโต้ตอบว่า “แม่มึงเสือกอะไรด้วยวะ” เป็นเพียงถ้อยคำที่ไม่สุภาพหาใช่เป็นคำด่าแม่ไม่ จึงยังถือไม่ได้ว่านายหนึ่งถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเช่นกัน การกระทำของนายหนึ่งจึงไม่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2562)
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ
อาวุธมีดที่นายหนึ่งใช้แทงนายสองเป็นมีดปอกขนุนปลายแหลมยาว 4 นิ้ว และนายหนึ่งเลือกแทงนายสองที่ท้องซึ่งมีอวัยวะสำคัญอยู่ภายในจนลำไส้ทะลักออกมา แสดงว่าแทงอย่างแรง นายหนึ่งย่อมเล็งเห็นผลได้ว่ามีดอาจจะทะลุไปถึงอวัยวะสำคัญจนเป็นเหตุให้นายสองถึงแก่ความตายได้ แม้มีดจะไม่ถูกอวัยวะสำคัญภายในก็ต้องถือว่านายหนึ่งมีเจตนาฆ่า เมื่อนายหนึ่งลงมือกระทำความผิดไปตลอดแล้ว แต่การกระทำของนายหนึ่งไม่บรรลุผลเพราะแพทย์ทำการผ่าตัดและรักษาชีวิตของนายสองไว้ได้ทันท่วงที นายสองจึงไม่ถึงแก่ความตาย การกระทำของนายหนึ่งจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ก่อนเกิดเหตุนายสองบุกรุกเข้าไปในบ้านของนายสามและพยายามจะเข้าไปในห้องนอนของนางสาวสี่ เป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมต่อนางสาวสี่มิใช่เป็นการข่มเหงต่อนายหนึ่ง แม้การกระทำของนายสองจะสร้างความไม่พอใจแก่นายหนึ่งซึ่งเป็นญาติ แต่นางสาวสี่ก็เป็นเพียงลูกพี่ลูกน้องของนายหนึ่งที่ไม่ใช่บุคคลใกล้ชิดอันจะก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่แก่นายหนึ่งที่จะต้องคอยปกป้องดูแลมิให้ผู้อื่นมาทำร้าย ดังนี้ จึงไม่อาจถือว่านายหนึ่งถูกนายสองข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ส่วนข้อความที่นายหนึ่งถูกนายสองโต้ตอบว่า “แม่มึงเสือกอะไรด้วยวะ” เป็นเพียงถ้อยคำที่ไม่สุภาพหาใช่เป็นคำด่าแม่ไม่ จึงยังถือไม่ได้ว่านายหนึ่งถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเช่นกัน การกระทำของนายหนึ่งจึงไม่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2562)
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ