เช็คสามารถใช้เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินได้หรือไม่ และลูกหนี้ยังคงจะต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คให้แก่เจ้าหนี้หรือไม่

1188 Views
เป็นที่ทราบกันดีว่ายังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ทำสัญญากู้โดยมีการเขียนเช็คสั่งจ่ายและส่งมอบให้แก่ผู้ให้กู้ไว้เพื่อเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินระหว่างกัน จึงมีคำถามว่า เช็คสามารถใช้เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินได้หรือไม่ และลูกหนี้ยังคงจะต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คให้แก่เจ้าหนี้หรือไม่
 
ป.พ.พ.มาตรา 653 ว.1 มีหลักว่า “การกู้ยืมเงินกว่า 2,000 บาทขึ้นไปนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่” ส่วนมาตรา 900 ว.1 มีหลักว่า “บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงินย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น” จากคำถามดังกล่าวข้างต้น การที่ลูกหนี้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คและมอบให้กับเจ้าหนี้เพื่อชำระหนี้เงินยืม แม้เจ้าหนี้จะไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเงินและเช็คไม่ถือว่าเป็นหลักฐานในการกู้ยืมเงิน ก็คงมีผลตามมาตรา 653 ว.1 ว่าเจ้าหนี้จะฟ้องร้องให้บังคับคดีการกู้ยืมเงินไม่ได้ แต่หนี้เงินกู้ยังอยู่ ไม่มีผลทำให้หนี้เงินกู้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อเจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินตามเช็คที่ลูกหนี้เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่าย เจ้าหนี้เป็นผู้เรียกเก็บเงินตามเช็ค เจ้าหนี้จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ลูกหนี้จึงต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คให้แก่เจ้าหนี้ตามมาตรา 900 ว.1 และมาตรา 914 ประกอบมาตรา 989
 
(เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9843/2557)

บทความอื่นๆ