รับประทานอาหารบุฟเฟต์ไม่หมดแต่ใกล้หมดเวลา จึงซ่อนอาหารในน้ำซุปหรือเผาให้ไหม้ จะมีความผิดอาญาฐานใดหรือไม่
รับประทานอาหารบุฟเฟต์ไม่หมดแต่ใกล้หมดเวลา จึงซ่อนอาหารในน้ำซุปหรือเผาให้ไหม้ จะมีความผิดอาญาฐานใดหรือไม่
302 Views
เมื่อพูดถึงอาหารบุฟเฟต์ (Buffet) ที่มีคนรับประทานมากที่สุด คงจะหนีไม่พ้นอาหารประเภทชาบูและปิ้งย่างซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมกันอยู่ที่ประมาณ 25,000 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ดี เป็นที่ทราบกันดีว่า อาหารบุฟเฟต์มักจะมีการกำหนดกติกาในการรับประทานเสมอ เช่น รับประทานได้ภายในระยะเวลาที่จำกัด และหากรับประทานเกินเวลาหรือรับประทานไม่หมดก็จะต้องเสียค่าปรับตามจำนวนอาหารที่รับประทานเหลือ ด้วยเหตุดังกล่าว เมื่อใกล้หมดเวลาจึงมีลูกค้าเป็นจำนวนมากที่พยายามจะทำให้อาหารที่เหลือนั้นหมดหรือไม่สามารถจะรับประทานได้ต่อไป เพื่อที่จะไม่ต้องจ่ายค่าปรับ จึงมีคำถามว่า รับประทานอาหารบุฟเฟต์ไม่หมดแต่ใกล้หมดเวลา จึงซ่อนอาหารในน้ำซุปหรือเผาให้ไหม้ จะมีความผิดอาญาฐานใดหรือไม่ แอดมินมีความเห็นดังนี้ครับ
เมื่อลูกค้ามีสิทธิที่จะรับประทานอาหารได้ทุกประเภทภายในระยะเวลาที่กำหนด การซ่อนอาหารในน้ำซุปหรือเผาให้ไหม้ก่อนหมดเวลา จึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์ เพราะไม่ได้แย่งการครอบครองหรือเบียดบังอาหารที่ทานไม่หมดจากเจ้าของร้าน ไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ เพราะโดยสภาพของอาหารก่อนการรับประทานจะต้องทำให้สุกเสียก่อน ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง เพราะแม้จะเป็นการหลอกลวงเจ้าของร้านอาหารด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง แต่การหลอกลวงดังกล่าวไม่ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากเจ้าของร้านอาหาร ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงค่าอาหาร เพราะไม่ใช่กรณีที่สั่งซื้อและบริโภคอาหารโดยรู้ว่าตนไม่สามารถชำระเงินค่าอาหารได้ แต่การที่ลูกค้ายอมรับกติกาและเงื่อนไขในเรื่องของค่าปรับก่อนการรับประทานอาหาร หากรับประทานเกินกำหนดเวลาหรือรับประทานไม่หมด ถือเป็นการตกลงกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในสัญญาว่า ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระหนี้ หรือการชำระหนี้ไม่ถูกต้อง หรือมีการกระทำอันฝ่าฝืนสัญญา ลูกค้าจะให้เบี้ยปรับเพื่อตอบแทนค่าเสียหาย ทั้งนี้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 379 กรณีดังกล่าวจึงเป็นเรื่องผิดสัญญาในทางแพ่ง
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ
เมื่อลูกค้ามีสิทธิที่จะรับประทานอาหารได้ทุกประเภทภายในระยะเวลาที่กำหนด การซ่อนอาหารในน้ำซุปหรือเผาให้ไหม้ก่อนหมดเวลา จึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์ เพราะไม่ได้แย่งการครอบครองหรือเบียดบังอาหารที่ทานไม่หมดจากเจ้าของร้าน ไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ เพราะโดยสภาพของอาหารก่อนการรับประทานจะต้องทำให้สุกเสียก่อน ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง เพราะแม้จะเป็นการหลอกลวงเจ้าของร้านอาหารด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง แต่การหลอกลวงดังกล่าวไม่ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากเจ้าของร้านอาหาร ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงค่าอาหาร เพราะไม่ใช่กรณีที่สั่งซื้อและบริโภคอาหารโดยรู้ว่าตนไม่สามารถชำระเงินค่าอาหารได้ แต่การที่ลูกค้ายอมรับกติกาและเงื่อนไขในเรื่องของค่าปรับก่อนการรับประทานอาหาร หากรับประทานเกินกำหนดเวลาหรือรับประทานไม่หมด ถือเป็นการตกลงกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในสัญญาว่า ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระหนี้ หรือการชำระหนี้ไม่ถูกต้อง หรือมีการกระทำอันฝ่าฝืนสัญญา ลูกค้าจะให้เบี้ยปรับเพื่อตอบแทนค่าเสียหาย ทั้งนี้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 379 กรณีดังกล่าวจึงเป็นเรื่องผิดสัญญาในทางแพ่ง
# บทความย้อนหลังอ่านได้ที่ https://lombonlawoffice.com/ หรือ “เพจทนายคู่คิด-ปรึกษาปัญหากฎหมาย” ครับ